ปกติผมจะดื่มแต่โค้ก(Coke) เพราะเป็นแฟนพันธุ์แท้โค้กมานานแล้ว แต่ช่วงนี้เห็นมีน้ำอัดลมเปิดตัวใหม่(เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2555) นั่นคือ เอส (est) เห็นว่าเป็นของบริษัทเสริมสุขซึ่งแยกทางจากเป๊ปซี่แล้วเลยหันมาออกสินค้าตัวใหม่มาทำตลาดเอง คอนเซ็ปของตัวสินค้าก็เข้าท่าดีคือ “สุดขั้วในแบบคุณ” หากนำ est ไปต่อกับคำใดก็จะหมายถึงสุดขั้วในทางนั้น เช่น fast-est , B-est เป็นต้น
ส่วนดาราที่เป็น Presenter ของสินค้าคือ “บี้-โตโน่-ไมค์” ซึ่งแต่ละคนก็ล้วนแต่เป็นดาราดังเป็นไอดอลของวัยรุ่นทั้งนั้น แต่ละคนก็เป็นตัวแทนของความสุดขั้วไม่ว่าจะเป็น ความเท่ห์สุดขั้น ความสนุกสุดขั้วหรือความซ่าสุดขั้ว เอาเป็นว่าโดนใจวัยรุ่นเป๊ะเลย
เรื่องของเรื่องก็คือว่าวันนั้นผมออกไปข้างนอกช่วงบ่ายอากาศหน้าหนาวของกรุงเทพก็รู้กันอยู่แล้วว่าร้อนตับแตกเลย(ไม่น่าจะเรียกว่าฤดูหนาวเลย) แวะร้านค้าเพื่อจะหาดื่มโค้กเย็นๆสักกระป๋องแต่กลับไม่มีแฮะ ร้อนก็ร้อน กระหายน้ำก็กระหายน้ำ บังเอิญเหลือบไปเห็น เอส (est) วางโชว์อยู่ในตู้แช่และนึกถึงโฆษณาของเอสแล้วรู้สึกว่าแม้ไม่มีโค้กก็ไม่เป็นไรลองของใหม่หน่อยแล้วกัน
ว่าแล้วก็เลยจัดการลองของใหม่ สั่งเอสมาดื่มทันที ในใจก็คิดว่า แหม! ร้อนๆแบบนี้ไม่มีโค้กเอสก็ได้น่า พอแก้ขัดไปก่อน พอดื่มเข้าไปก็รู้สึกว่ารสชาดเหมือนกับน้ำซาสี่เลย ความซ่าก็โอเค แต่ในใจก็นึกถึงเครื่องดื่มยี่ห้อนึงคือ RC โคล่า (หลายคนบอกว่ายังมีขายอยู่แต่หาซื้อค่อนข้างยาก) ส่วนตัวผมว่าเอสคล้ายน้ำซาสี่นะ หากไม่มีโค้กก็ดื่มเอสแทนก็โอเคนะ
อีกประการหนึ่งก็คือเอส (est) เป็นสินค้าของคนไทย ช่วยกันสนับสนุนสินค้าไทยน่าจะดีกว่านะ น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นและให้พลังงานทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้แต่โทษของน้ำอัดลมก็มีเช่นกันหากดื่มน้ำอัดลมมากเกินไป ความเป็นจริงแล้วทุกๆอย่างในโลกเราก็มีข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งไม่ว้นแม้แต่คนเราก็เถอะ ดังนั้นจึงอยู่ที่ว่าเรารู้จักใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นอย่างเหมาะสมหรือยัง…แค่นั้นเอง
หมายเหตุ : เป็นความเห็นส่วนตัวที่เล่าสู่กันฟังแบบชิวชิว