ป่วยบ่อยทำไงดี

ไม่มีใครอยากเป็นคนขี้โรค การป่วยบ่อยอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่ กินอาหารที่ไม่สมดุล มีความเครียด ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ พักผ่อนไม่เพียงพอ หากคุณป่วยบ่อยและต้องการปรับปรุงสุขภาพของคุณให้ลองรับประทานอาหารที่มีประโยชน์(กินให้ครบ 5 หมู่) เลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เช่น ผักผลไม้ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมันและธัญพืชที่ไม่ขัดสีเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ดื่มน้ำให้เพียงพอเพราะร่างกายต้องการน้ำเพื่อการทำงานที่ดีและรักษาสมดุลของร่างกายควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว พักผ่อนให้เพียงพอ จะนอนอย่างไรให้เพียงพอและจะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายพักผ่อน

วิธีทำให้สุขภาพดี
สุขภาพดี ไม่ป่วยบ่อย ทำยังไง ?

เพียงพอหรือไม่ ่่การนอนหลับที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันควรนอนหลับให้ได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวันและควรเป็นการนอนหลับแบบมีคุณภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะออกกำลังกายมาก-น้อยไม่เป็นไรแต่ที่สำคัญคือความสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดความเครียด ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน(ช่วง 30 นาทีที่ออกกำลังกายให้ทำอย่างต่อเนื่อง) จัดการความเครียดทำให้ร่างกายผ่อนคลายเพราะความเครียดสามารถทำให้ร่างกายอ่อนแอและนอนไม่หลับ ควรหาวิธีผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ โยคะ ร้องเพลงดังๆ หรือการทำกิจกรรมอะไรก็ตามที่คุณชอบ ดูแลรักษาสุขอนามัยให้เป็นนิสัยติดตัว ล้างมือบ่อยๆเพื่อป้องกันการติดเชื้อและหลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าตาโดยไม่จำเป็นหากยังไม่ล้างมือ หากทำตามคำแนะนำแล้วยังป่วยบ่อยอยู่ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับคำแนะนำการรักษาที่เหมาะสม

ทำไมคนเราถึงไม่สบาย ไม่มีใครอยากไม่สบายหรือเป็นคนที่ป่วยบ่อยๆ การที่คนเราป่วยหรือไม่สบายเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากการติดเชื้อโรคต่างๆ จากสภาพแวดล้อมที่อยู่หรือจากพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เชื้อที่ติดอาจเป็น แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต เชื้อรา สภาพแวดล้อมที่ไม่ดีเช่นอากาศที่มีผุ่นละอองหรือมลพิษทางอากาศ เมื่อสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจเพราะแพ้หรือได้รับพิษจากมลพิษรอบตัว บางคนอาจมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องและทำจนติดเป็นนิสัยเช่น กินอาหารที่ไม่สมดุลทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ร่างกายขาดสารอาหาร มีพฤติกรรมไม่ชอบออกกำลังกาย นอนดึกทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายอย่างทั้งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอร่างกายไม่แข็งแรงจึงทำให้ป่วยบ่อยหรือไม่สบายมากกว่าคนปกติ บางครั้งการป่วยบ่อยอาจเกิดจากสภาวะทางจิตใจหรือความเครียด อาจเป็นความเครียดที่เกิดจากการทำงาน เรื่องครอบครัว เรื่องเงินและคนรอบตัว เมื่อเครียดและหาทางออกไม่ได้ทำให้สะสมเป็นความเครียดเรื้อรัง เกิดภาวะซึมเศร้า ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและป่วยได้ง่าย อีกสาเหตุที่ทำให้ป่วยบ่อยอาจเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิดทำให้ร่างกายอ่อนแอและมีความเสี่ยงที่จะป่วยได้ง่ายกว่าคนปกติ การดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันให้เกิดสมดุลจะช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยได้มาก

พฤติกรรมใดที่มีผลเสียต่อสุขภาพ คนวัยทำงานมักรู้ดีว่าอะไรคือพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพแต่เนื่องจากคิดว่าร่างกายยังรับได้ก็ยังคงทำพฤติกรรมนั้นอยู่ มีพฤติกรรมหลายอย่างที่สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้โดยพฤติกรรมเหล่านี้สามารถส่งผลทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อร่างกายและจิตใจ ได้แก่ การกินอาหารที่ไม่สมดุล กินแต่อาหารที่มีน้ำตาล เกลือ ไขมันสูง(Fast Food) พฤติกรรมเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดเพราะรีบกิน(อาหารจานด่วน) รีบทำงานทำให้กระเพาะทำงานหนัก กินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ทำให้ขาดสารอาหาร เส้นใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ พฤติกรรมไม่ขอบออกกำลังกายชอบอ้างว่าไม่มีเวลาแต่ที่จริงแล้วไม่เห็นความสำคัญของการออกกำลังกายจนกว่าจะล้มหมอนนอนเสื่อจึงจะหันมาสนใจการออกกำลังกาย พฤติกรรมการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ที่คนส่วนมากจะเข้าทำนอง “มิเห็นโลงศพ มิหลั่งน้ำตา” เนื่องจากพฤติกรรมการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้นกว่าจะทำให้เกิดมะเร็งปอด โรคตับแข็งได้ต้องใช้ระยะเวลาสะสมสารพิษไปเรื่อยๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายเสียแล้ว พฤติกรรมนอนดึกและจัดการความเครียดไม่ดีซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้มักจะเกี่ยวข้องกันคือเมื่อเครียดก็จะทำให้นอนไม่หลับ หลับก็หลับ ๆ ตื่น ๆ(ไม่มีคุณภาพ) ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว พฤติกรรมการละเลยสุขอนามัยไม่ใส่ใจในการดูแลสุขภาพ คนในวัยทำงานจะเป็นกันมากคือคิดว่าไม่เป็นไร ทั้งที่จริงควรใส่ใจในการดูแลสุขภาพ หมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้งและเมื่ออายุมากขึ้นหรือมีโรคประจำตัวก็ให้เพิ่มความถี่ในการตรวจสุขภาพให้มากขึ้นเพื่อเป็นการเฝ้าระวังลดโอกาสในการเกิดโรคอื่นๆ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคและปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้

จะรู้ได้ไงว่าภูมิคุ้มกันต่ำ มีสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของเราผิดปกติซึ่งหากภูมิคุ้มกันผิดปกติ(ต่ำ) อาจทำให้ร่างกายอ่อนแอและป่วยได้ง่าย สังเกตุได้จาก ป่วยบ่อยและการป่วยแต่ละครั้งกว่าจะหายก็ใช้เวลามากกว่าคนทั่วไป เมื่อร่างกายเป็นแผลก็ใช้เวลานานกว่าจะหายบางทีกลายเป็นแผลเรื้อรัง ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้าแม้จะพักผ่อนเพียงพอเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงร่างกายจะฟื้นตัวช้า ร่างกายมักจะมีอาการท้องเสีย ท้องอืด ท้องผูกบ่อยๆ คือมีปัญหากับระบบทางเดินอาหาร ผิวหนังมีสุขภาพไม่ดี ผิวแห้ง แตก เป็นผื่นแพ้บ่อยๆ

ภูมิต้านทานต่ำกินอะไรดี พฤติกรรมการกินที่ดีจะป้องกันและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้นได้ อาหารที่กินแล้วทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน เห็ด ไข่แดง เนื้อแดง หอยนางรม ธัญพืชเต็มเมล็ด สังกะสีจะช่วยในการผลิตและการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว(ส้ม มะขามป้อม เกรปฟรุต) ผักที่มีวิตามินซีสูงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน(บร็อคโคลี่ ผักกาด พริกหวาน) อาหารที่มีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยเพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวและเซลล์ภูมิคุ้มกัน(แครอท มันเทศ ฟักทอง) อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน(อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง) อาหารที่มีโพรไบโอติกช่วยเสริมสร้างระบบทางเดินอาหารที่แข็งแรงและส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน(นัตโตะ โยเกิร์ต กิมจิ) อาหารที่มีโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน(ปลาทูน่า เมล็ดเฟล็กซ์) ชาและสมุนไพรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและต้านการอักเสบ(ขิง ชาเขียว ขมิ้น กระเทียม) และสุดท้ายการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ(อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว) จะช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย ขับของเสียออกจากร่างกายทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *