ความผิดปกติของร่างกายที่เรียกว่า “โรคเบาหวาน” นั้นเป็นเพราะว่าร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลิน(Insulin Hormone) ที่ทำหน้าที่ในการนำน้ำตาลในเลือดเข้าสู่เซลล์ต่างๆของร่างกายเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในการดำรงชีวิต แต่ถ้าร่างกายมีฮอร์โมนอินซูลินตัวนี้น้อยหรือไม่มีเลย(เพราะร่างกายมีความผิดปกติจนไม่สามารถสร้างได้) จึงทำให้ร่างกายประสบปัญหามีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงมากจนร่างกายต้องขับออกไปเป็นของเสียรวมอยู่กับปัสสาวะ ดังนั้นปัสสาวะของผู้ป่วยเบาหวานจึงมีน้ำตาลปนอยู่อันเป็นที่มาของชื่อโรค “เบาหวาน” นั่นเอง
การรักษาเบาหวานทำได้โดยการพยายามเพิ่มสิ่งที่ร่างกายขาดเข้าไปนั่นคือฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งอาจทำได้จากการกินยาหรือฉีดยา นั่นเป็นการพยายามควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ การฉีดยารักษาเบาหวานเป็นการกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายรับเอาน้ำตาลที่มีอยู่ในกระแสเลือดไปใช้ ยาที่ฉีดเข้าไปก็คือ “ฮอร์โมนอินซูลิน” นั่นเอง ผู้ป่วยที่ต้องฉีดอินซูลินเนื่องจากตับอ่อนที่ความผิดปกติจนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้หรือสร้างได้ในจำนวนที่น้อยมาก หากไม่มีการรักษาโดยฉีดอินซูลินแล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
สำหรับยารักษาเบาหวานชนิดกินนั้นจะใช้กับผู้ป่วยเบาหวานที่มีฮอร์โมนอินซูลินอยู่ในตัวแต่ร่างกายดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลินจนไม่สามารถดึงน้ำตาลจากเลือดไปสู่เซลล์ต่างๆได้ จึงจำเป็นต้องกินยาเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ(ไม่เป็นอันตราย) ซึ่งในบางครั้งอาการของผู้ป่วยเบาหวานอาจจะหนักถึงขั้นระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากก็ต้องใช้ทั้งยาฉีดและยากินควบคู่กันไปก็มี
ยารักษาโรคเบาหวานมีหลายชนิดแต่จะแบ่งออกเป็นกลุ่มได้ 3 กลุ่มคือ
- ยากลุ่มที่ออกฤทธิ์ในการกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินและเพิ่มประสิทธิภาพของฮอร์โมนอินซูลิน ยากลุ่มนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ฯลฯ แพทย์มักแนะนำให้กินยานี้ก่อนอาหาร ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้เช่น Gliclazide, Glibenclamide , Glipizide.
- ยากลุ่มที่เพิ่มความไวต่อการตอบสนองแก่ฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดถูกเนื้อเยื่อต่างๆนำไปใช้ได้มากขึ้น ยาในกลุ่มนี้อาจทำให้ระคายเคืองลำไส้ จุกเสียดท้อง อาเจียนและเบื่ออาหารได้ แพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยกินยาในกลุ่มนี้หลังอาหารทันที ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Metformin.
- ยากลุ่มที่ออกฤทธิ์รบกวนการย่อยและดูดซึมกลูโคส แพทย์มักแนะนำให้กินพร้อมอาหารเพื่อให้ยาคลุกเคล้าผสมไปกับอาหาร ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้เช่น Acrabose.
การควบคุมรักษาเบาหวานควรเริ่มจากการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากจำเป็นจริงๆจึงจะใช้วิธีรักษาเบาหวานด้วยการใช้ยา ทั้งนี้การใช้ยารักษาโรคเบาหวานไม่ว่าจะเป็นยากินหรือยาฉีดควรอยู่ในการดูแลและให้คำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น