ทำไมต้องหาวิธีเพิ่มโกรทฮอร์โมนหรือวิธีกระตุ้นโกรทฮอร์โมนให้หลั่ง ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่าโกรทฮอร์โมนคืออะไรและมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร โกรทฮอร์โมน(Human Growth Hormone หรือ HGH) เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งในร่างกายของคนเราที่สร้างจากต่อมใต้สมอง(Pituitary Gland) เป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ถ้าร่างกายขาดโกรทฮอร์โมนจะทำให้ระบบและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายเสียความสมดุล อ่อนแอ ทำหน้าที่ได้ลดลงทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติเช่น ภูมิต้านทานโรคลดลงทำให้ร่างกายเมื่อได้รับเชื้อโรคก็จะเป็นโรคต่างๆ ได้ง่าย ประเด็นสำคัญอีกอย่างคือโกรทฮอร์โมนจะช่วยในเรื่องพัฒนาการด้านสมองและทำให้ร่างกายคงความเป็นหนุ่มสาวไม่ให้แก่เร็วนั่นเอง
หน้าที่ของโกรทฮอร์โมนจะครอบคลุมการทำงานของร่างกายใน 6 ด้านหลักๆ คือ 1. ช่วยสร้างความเจริญเติบโตของร่างกายและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็นและประสาท 2. ช่วยเสริมการสร้างโปรตีนซึ่งเป็นกระบวนการภายในอวัยวะและเซลล์ต่างๆ 3. ช่วยเร่งการเผาผลาญสารอาหารเช่น ไขมันและน้ำตาลให้เป็นพลังงาน 4. ช่วยให้การทำงานของระบบเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 5. ช่วยสร้างความยืดหยุ่นของผิวหนัง เส้นเอ็น กระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนัง 6. ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของร่างกาย(Immune System) ให้ร่างกายแข็งแรงป้องกันไม่เกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่าประโยชน์ของโกรทฮอร์โมนทำให้ร่างกายสามารถย้อนวัยกลับไปมีร่างกายที่มีสุขภาพแข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาวได้
จากประโยชน์ที่มากมายของโกรทฮอร์โมน ทำให้นักวิจัย แพทย์ นักโภชนบำบัด พยายามหาทางสร้างโกรทฮอร์โมนสังเคราะห์ขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้โกรทฮอร์โมนสังเคราะห์นี้กับผู้ป่วยที่ร่างกายมีความบกพร่องไม่สามารถสร้างฮอร์โมนชนิดนี้ขึ้นมาได้ตั้งแต่เกิด(ร่างกายแคระแกร็น รูปร่างไม่สมส่วน)หรือใช้โกรทฮอร์โมนสังเคราะห์กับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องได้รับโกรทฮอร์โมนเท่านั้น แต่ต่อมาได้มีการนำโกรทฮอร์โมนสังเคราะห์ไปใช้กับคนปกติเพื่อชะลอวัยทำให้ร่างกายกลับมาเป็นหนุ่มสาวซึ่งมีทั้งโกรทฮอร์โมนแบบฉีดและโกรทฮอร์โมนแบบกิน
ผลข้างเคียงของโกรทฮอร์โมนสังเคราะห์ การนำโกรทฮอร์โมนสังเคราะห์มาใช้เป็นยาต้านความชราในคนปกตินั้นอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ สำหรับโกรทฮอร์โมนแบบฉีดนั้นการใช้ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะและมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง โกรทฮอร์โมนสังเคราะห์จัดว่าเป็นยาที่ผลิตขึ้นมาด้วยกระบวนการทางเคมีไม่ได้ผลิตจากร่างกายการได้รับโกรทฮอร์โมนมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาเช่น ทำให้แขนขาบวม ผู้หญิงมีหนวดขึ้น ผู้ชายมีหน้าอกหรือเต้านมใหญ่กว่าปกติ ปวดข้อและกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อเจริญเติบโตมากเกินไป ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน เป็นต้น
อาหารกระตุ้นโกรทฮอร์โมน เนื่องจากวิธีเพิ่มโกรทฮอร์โมนโดยการฉีดโกรทฮอร์โมนสังเคราะห์เป็นวิธีที่ยุ่งยากและอาจมีผลข้างเคียงจากการใช้โกรทฮอร์โมนสังเคราะห์ ดังนั้นจึงมีการคิดวิธีกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนเพิ่มมากขึ้นโดยธรรมชาติซึ่งมีหลายวิธีด้วยกันแต่มีวิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยมทำกันคือการเสริมกรดอะมิโนกระตุ้นการสร้างโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกาย กรดอะมิโน(Amino-acid)ที่นิยมใช้กันมากมีอยู่ 6 ชนิดคือ L-Arginine(แอล-อาร์จินีน), L-Carnitine(แอล-คาร์นิทีน), L-Lysine(แอล-ไลซีน), L-Glutamine(แอล-กลูตามีน), L-Glysine(แอล-ไกลซีน)และ L-Phenylalanine(แอล-เฟนิลอลานีน) กรดอะมิโนเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้มีการสร้างและหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาจากภายในร่างกายเองที่ถือว่าเป็นการเพิ่มโกรทฮอร์โมนแบบธรรมชาติ ปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีอาหารเสริมที่มีกรดอะมิโนกระตุ้นการสร้างโกรทฮอร์โมนเหล่านี้วางขายในท้องตลาดและบอกว่าเป็น “อาหารเสริมกระตุ้นโกรทฮอร์โมน” ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าอาหารเสริมเหล่านี้จะมีส่วนประกอบของกรดอะมิโนที่กล่าวไว้ข้างต้น (Amino acid คือโปรตีนที่ถูกย่อยจนมีขนาดเล็กและสามารถซึมผ่านเข้าสู่เซลล์ของร่างกายเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้)
วิธีที่ถูกต้องในการเพิ่มการหลั่งโกรทฮอร์โมนคือวิธีกระตุ้นให้ร่างกายสร้างและหลั่งออกมาเองตามธรรมชาติโดยการเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันจากการนอนดึก ทำงานหนัก เครียด กินอาหารขยะ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายซึ่งเป็นการทำลายสุขภาพและเป็นอุปสรรคกับการกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา ถ้าอยากให้ร่างกายมีการสร้างและหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาต้องเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตประจำวันให้ตรงกันข้ามคือ กินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่เครียดและที่สำคัญคือการพักผ่อนควรเข้านอนในช่วง 4 ทุ่มไม่เกินที่ยงคืนและนอนหลับให้สนิทเพราะร่างกายจะการหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาในช่วงที่นอนหลับสนิท