อาหารต้านไมเกรน

อาหารที่ช่วยบรรเทาอาการของโรคไมเกรน ก่อนอื่นมารู้จักกับ “โรคไมเกรน” กันก่อน “ไมเกรน” หรือที่คนมักเรียกกันว่า “ปวดหัวข้างเดียว” มักเกิดกับคนวัยทำงานที่มีอายุในช่วงตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปจนถึง 55 ปี เนื่องจากการดำเนินชีวิตของคนวัยทำงานมักสอดสารอาหารที่มีประโยชน์จากถั่วคล้องกับการกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรนกำเริบขึ้นไม่ว่าจะเป็น ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ความเครียดจากการทำงาน การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอหรือนอนน้อย สภาพการทำงานที่ต้องจับจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีแสงสว่างจ้าเป็นประจำ ฯลฯ ไลฟ์สไตล์ของคนทำงานจึงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะข้างเดียวหรือไมเกรนได้เป็นอย่างดี

สาเหตุของการเกิด “ไมเกรน” มีปัจจัยมากมายที่ทำให้เกิดโรคนี้เช่น พันธุกรรม อารมณ์ อาหาร ความเครียด เพศ และสภาพแวดล้อม ฯลฯ จากสถิติจะพบว่า “ไมเกรน” มีโอกาสเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่าเป็นเพราะสาเหตุที่ว่ามีปัจจัยทางด้านฮอร์โมนเข้ามาเกี่ยวข้อง ตั้งแต่การแปรปรวนของฮอร์โมนในระยะที่มีประจำเดือน ในภาวะตั้งครรภ์ วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน การที่ฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลงจะเป็นสาเหตุสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรนได้

การกินยาเพื่อบรรเทา “ไมเกรน” นั้นเป็นการรักษาไมเกรนที่ปลายเหตุ วิธีที่แนะนำคือการรักษาไมเกรนที่ต้นเหตุจะทำให้อาการไมเกรนเกิดขึ้นน้อยจนหายขาดได้ถ้าผู้ป่วยรู้จักสังเกตุว่าตัวเองแพ้อะไร(สิ่งกระตุ้นหรือปัจจัยที่ทำให้เกิดไมเกรน) ก็ให้พยายามหลีกเลี่ยงจากสิ่งกระตุ้นเหล่านั้นและรู้จักดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอเช่น การพักผ่อนให้เพียงพอหรือการนวดเพื่อคลายเครียดและบรรเทาอาการไมเกรน รวมถึงการประคบร้อน-เย็นเมื่อมีอาการปวดหัวข้างเดียวโดยประคบบริเวณหน้าฝากและต้นคอ อาจมีการกดจุดเพื่อบรรเทาอาการปวดไมเกรน อีก ปัจจัยหนึ่งคือการกินอาหาร การรู้จักหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการไมเกรนและรู้ว่าอาหารชนิดใดจะช่วยต้านไมเกรนได้ก็จะช่วยบรรเทาและรักษาอาการไมเกรนให้ดีขึ้นได้

อาหารต้านไมเกรนชนิดแรกคือ “แมกนีเซียม” โดยทั่วไปร่างกายต้องการแมกนีเซียมจากธรรมชาติ 500-600 มิลลิกรัม/วัน ในระยะที่กำลังเกิดอาการปวดศีรษะข้างเดียวระบบการดูดซึมแมกนีเซียมจะน้อยลง ดังนั้นการกินอาหารที่แมกนีเซียมจะช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของการปวดไมเกรนได้

อาหารต้านไมเกรนอีกชนิดหนึ่งคือ “วิตามินบี” ไรโบฟลาวินหรือที่เรียกว่า วิตามินบี2 จะช่วยสร้างเซลล์ของหลอดเลือดและเพิ่มพลังสำรองในเซลล์สมอง ส่วนวิตามินบี6 จะช่วยลดอาการปวดไมเกรนลงได้ การที่ร่างกายได้รับวิตามินบี6 เพิ่มเติมก่อนภาวะมีประจำเดือน 5-10 วันจะช่วยลดอาการปวดไมเกรนในช่วงมีประจำเดือนได้

ส่วนอาหารที่ผู้ป่วยไมเกรนควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากเป็นอาหารที่กระตุ้นอาการไมเกรนเช่น อาหารประเภทเนยแข็ง ถั่วลิสง เครื่องในสัตว์ ช็อคโกแลต ไส้กรอก เนยถั่ว กะหล่ำปลีดองและเบียร์ สำหรับผู้ป่วยที่ร่างกายมีความไวต่อสารไทรามีนเมื่อกินอาหารจำพวกนี้เข้าไปจะทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงได้ นอกจากนี้วัตถุกันเสียและสารปรุงรสบางชนิดเช่น ผลชูรส ดินประสิวที่เป็นส่วนประกอบในอาหารรมควัน แฮม เบคอน ไส้กรอกก็อาจเป็นตัวกระตุ้นให้ปวดไมเกรนได้ ส่วนคาเฟอีนที่มีอยู่ในชา-กาแฟหากดื่มเพียงเล็กน้อยก็ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้แต่หากดื่มมากไปกระตุ้นให้เส้นเลือดขยายตัวทำให้ปวดไมเกรนได้เช่นกัน จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ทำให้รู้ว่าอะไรคืออาหารที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรนและอะไรคืออาหารต้านไมเกรน หากคุณต้องการหลุดพ้นจากการปวดไมเกรนที่ทรมานก็ให้หลีกเลี่ยงจากปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการปวดไมเกรนและรู้จักเลือกกินอาหารต้านไมเกรนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคุณ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *