โรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid) สาเหตุ อาการและการรักษา

โรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid) เป็นโรคที่เกิดขึ้นบริเวณทวารหนักซึ่งเป็นทางขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายโดยจะมี

อาการริดสีดวงทวาร

ติ่งเนื้อที่ยื่นออกมาหรืออยู่ที่ปากทวารหนัก สาเหตุของโรคริดสีดวงทวารเกิดจากการบวมและอักเสบของหลอดเลือดดำที่อยู่บริเวณผนังลำไส้ใหญ่ส่วนปลายที่อาจเกิดขึ้นเป็นจุดๆหรืออาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุดทำให้เกิดเป็นติ่งเนื้อในบริเวณที่เป็น ริดสีดวงทวารมีทั้งที่เป็น “ริดสีดวงภายนอก” และ “ริดสีดวงภายใน” อาการริดสีดวงทวารที่ทำให้น่าตกใจคือถ่ายเป็นเลือด

อาการริดสีดวง หากริดสีดวงเกิดกับเส้นเลือดดำที่อยู่ใต้ผิวหนังรอบๆปากทวารหนักซึ่งอาจเห็นได้จากภายนอกจะเรียกว่า “ริดสีดวงภายนอก” แต่หากเกิดกับเส้นเลือดดำที่อยู่ลึกเข้าไปบริเวณด้านในของลำไส้ใหญ่ส่วนปลายจะเรียกว่า “ริดสีดวงภายใน”  สาเหตุของโรคริดสีดวงทวารส่วนใหญ่จะเกิดจากการมีพฤติกรรมการขับถ่ายอุจจาระที่ไม่ถูกต้องคือผู้ป่วยริดสีดวงส่วนมากจะปล่อยให้มีอาการท้องผูกบ่อยๆโดยไม่ให้ความสนใจที่จะป้องกันรักษา นอกจากนี้การนั่งในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานาน การกลั้นอุจจาระและการชอบอ่านหนังสือขณะขับถ่ายล้วนเป็นพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของโรคริดสีดวงทวารได้ทั้งสิ้น

ในช่วงเวลาที่กำลังเบ่งถ่ายอุจจาระจะทำให้เกิดแรงดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น ทำให้หลอดเลือดดำที่อยู่โดยรอบทวารหนักเกิดการยืดหรือโป่งพอง ถ้ามีพฤติกรรมในการขับถ่ายลักษณะนี้บ่อยๆจะทำให้เส้นเลือดดำที่ยืดหรือโป่งพองขึ้นมานั้นกลายเป็นติ่งเนื้อได้และผนังเส้นเลือดดำจะมีความหนาน้อยลงเมื่อมีการโป่งพองหากเกิดการเสียดสีกับอุจจาระที่แข็งและหยาบก็อาจทำให้หลอดเลือดดำเกิดการปริแตกหรือฉีกขาดได้ทำให้เห็นผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid) ถ่ายเป็นเลือดสดๆ ในลักษณะเดียวกันหากมีการร่วมเพศทางทวารหนัก อาการท้องผูก (ถ่ายยาก) เรื้อรัง อาการท้องเสียเรื้อรัง พฤติกรรมที่ชอบใช้ยาสวนทวารพร่ำเพรื่อ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารได้ทั้งสิ้น

อาการริดสีดวงที่พบเห็นได้บ่อยคือเจ็บปวดรอบๆทวารหนักขณะถ่ายอุจจาระและมีก้อนเนื้อเป็นติ่งยื่นออกมาจากทวารหนัก บริเวณรอบๆทวารหนักจะคันและเปียกแฉะ ขณะถ่ายและหลังถ่ายอุจจาระจะมีเลือดสดๆปะปนออกมาทางทวารหนัก (ถ่ายเป็นเลือด) บริเวณรอบๆทวารหนักหากเอามือไปคลำดูจะรู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้อเป็นติ่งยื่นหรือนูนออกมา

อาการริดสีดวงระยะต่างๆ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะคือ

1. ระยะที่หนึ่งซึ่งเป็นระยะเริ่มแรก ติ่งเนื้อที่เกิดขึ้นจากหลอดเลือดดำยืดหรือโป่งพองยังอยู่ภายในทวารหนัก

จะไม่ค่อยเจ็บแต่จะมีอาการคันริดสีดวงที่อยู่รอบๆทวารหนักและอาจจะมีเลือดออกเป็นบางครั้งเมื่อเบ่งถ่ายอุจจาระแรงๆทำให้เกิดอาการถ่ายเป็นเลือด

2. ระยะที่ติ่งเนื้อเริ่มโผล่ออกมาตอนเบ่งถ่ายอุจจาระ อาการริดสีดวงในระยะนี้ยังสามารถหดตัวกลับเข้าไปภายในทวารหนักได้เองโดยไม่ต้องใช้มือช่วย

3. ระยะที่ติ่งเนื้อโผล่ออกมาในเวลาที่เบ่งถ่ายอุจจาระ ริดสีดวงอาการจะแตกต่างจากระยะที่ 2 คือติ่งเนื้อที่ยื่นออกมาจากทวารหนักนั้นจะไม่สามารถหดกลับเข้าไปได้เอง ต้องใช้มือดันกลับเข้าไปในทวารหนัก

4. ระยะที่ติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่และยื่นออกมา ริดสีดวงอาการระยะนี้จะเป็นมากแล้วจนไม่สามารถกลับเข้าไปเองได้แม้จะใช้มือช่วยดันแล้วก็ตาม

การรักษาริดสีดวงทวาร การรักษาจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค ในระยะที่1 ซึ่งเป็นระยะเริ่มแรกของอาการริดสีดวงยังไม่หนักมาก ถ้ามีการดูแลและปฏิบัติตามคำแนะนำ

ยาเหน็บริดสีดวงทวาร

อาการเจ็บปวดและเลือดออกก็จะทุเลาและหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าเป็นริดสีดวงระยะที่2 และ 3 เป็นริดสีดวงอาการที่ค่อนข้างจะเป็นมากแล้วการรักษาโรคริดสีดวงทวารจะทำได้โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำควบคู่ไปกับการใช้ยารักษาริดสีดวง สำหรับการรักษาริดสีดวงในระยะที่ 4  ซึ่งเป็นระยะที่รุนแรงจะมีการถ่ายเป็นเลือดซึ่งความจริงก็คือเลือดที่ไหลออกมาจากเส้นเลือดดำที่ปริแตกอยู่เรื่อยๆ การรักษาริดสีดวงทวารในระยะนี้ต้องรักษาโดยการผ่าตัด

ยารักษาริดสีดวง ริดสีดวงรักษาได้โดยการใช้ยาจะเป็นยาเหน็บทวารหนักซึ่งเป็นยาใช้ภายนอก ยาชาบรรเทาอาการปวด ยาทำให้หลอดเลือดหดตัว ยาลดการอักเสบและยาปฏิชีวนะ โรคริดสีดวงรักษาโดยการใช้ยาชนิดขี้ผึ้งและชนิดแท่ง สำหรับยาริดสีดวงชนิดแท่งให้เก็บยา (ของเหลว) ไว้ในตู้เย็นให้ยาแข็งเป็นแท่งก่อนใช้ เมื่อจะใช้ให้เหน็บแท่งยาเข้าไปในรูทวารหนักให้สุดวันละ 1-2 ครั้ง (ระยะห่างกัน 12 ช.ม.) ส่วนยาริดสีดวงชนิดขี้ผึ้งจะมีหลอดช่วยในการสอดเข้าช่องทวารหนัก เวลาใช้ให้บีบยาขี้ผึ้งเข้าไปในช่องทวารหนักวันละ 1-2 ครั้งโดยเว้นระยะ 12 ชั่วโมงเช่นกัน

การป้องกันอาการริดสีดวงทวารและการรักษาโรคริดสีดวงทวาร

1. พฤติกรรมการเบ่งอุจจาระแรงๆ (ท้องผูก) หรือการนั่งส้วมนานๆ จะทำให้ริดสีดวงอาการเป็นมากขึ้น พยายามอย่าปล่อยให้เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะจะเป็นการเพิ่มอาการริดสีดวงให้มากขึ้น

2. อย่าถูแรงๆบริเวณรอบๆทวารหนักเพราะจะเพิ่มการระคายเคืองต่ออาการริดสีดวง

3. พยายามกินอาหารที่มีเส้นใยสูง (High fiber) เช่น ผัก-ผลไม้ ธัญพืช เพื่อช่วยให้การขับถ่ายอุจจาระได้ง่ายขึ้น

4. ให้ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้วทุกวัน

5. ควรออกกำลังกายทุกวันจะเป็นการช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้การถ่ายอุจจาระทำได้ง่ายขึ้น

6. ถ้าไม่รู้สึกปวดถ่ายก็อย่าฝืนเบ่งอุจจาระหรือนั่งส้วมนาน

7. การลดอาการปวดและอักเสบจากอาการริดสีดวงทวารให้นั่งแช่ในน้ำอุ่น 10-15 นาที หากปวดมากให้กินยาแก้ปวดหรือแก้อักเสบแล้วแต่อาการ

8. กินยาเพื่อช่วยลดอาการคั่งของเลือดเช่น Venoluton หรือ  Daflon

9. ให้เหน็บยาที่ทวารหนักตอนเช้าและก่อนนอน วันละ 2 ครั้งเพื่อช่วยให้ริดสีดวงอาการดีขึ้น

10. หากอาการริดสีดวงไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 อาทิตย์ต้องรีบปรึกษาแพทย์.

64 Replies to “โรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid) สาเหตุ อาการและการรักษา”

  1. คาดว่าเป็นระยะที่3 ควรซื้อยาเองหรือไปพบแพทย์ดีคะปกติไม่ท้องผูกไม่นั่งส้วมนานแต่ท้องเสียบ่อยเวลาท้องเสียถ่ายบ่อยจะมีติ่งเนื้อยื่นออกมาเอามือดันเข้าไปก็หายแต่ครั้งนี้ดันเข้าไปแล้วไม่หายยังโผล่ออกมาอีกควรทำอย่างไรดีคะ ช่วยตอบด้วยค่ะ ขอบพระคุณมากๆค่ะ

    1. คุณไม่ควรปล่อยให้เป็นจนถึงระยะที่ 3 โดยไม่ไปปรึกษาแพทย์ แน่นอนว่าคุณต้องไปพบแพทย์แล้วเพื่อการตรวจอย่างละเอียดว่าคุณเป็นริดสีดวงทวารจริงหรือไม่และเป็นมากน้อยแค่ไหน ถ้าอาการของคุณเป็นริดสีดวงทวารระยะที่ 3 จริงคุณต้องรักษาโดยการใช้ยาควบคู่ไปกับการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ อย่าปล่อยให้อาการลุกลามไปมากกว่านี้นะครับ…ไปปรึกษาแพทย์และหาทางรักษาอย่างจริงจังได้แล้วครับ.

  2. รบกวน ขอถามหน่อยคะ กรณีที่เจ็บหน่วงๆข้างในช่วงลำไส้ตรงบริเวณทวารหนัก เวลาขับถ่าย แต่ยังไม่ถึงขนาดมีเลือดออกหรือติ่งเนื้อ อัันนี้ถือเป็นอาการเริ่มแรกหรือเปล่าคะ ทานสมุนไพรเพชรสังฆาตจะหายไหมหรือสมควรไปพบแพทย์ดีคะอาการเป็นประมาณ3วันได้คะ ก่อนหน้านั้นก็นานๆจะมีอาการปวดสักทีหนึ่งแต่ช่วงนี้เริ่มเป็นบ่อยเวลาขับถ่ายคะ ขอบคุณคะ รบกวนตอบกลับทางเมล์ด้วยจะขอบพระคุณมากคะ

  3. คือมันมีเนื้อที่หูรูดยาวประมาณ1เซนิเมตรค่ะ แต่ไม่มีอาการเจ็บปวดแสบ เป็นแบบนี้มา 4 ปี
    ถ่ายเป็นเลือดประมาณ4/10 ค่ะ เลือดไม่เยอะปนมาพอรู้ว่าเป็นเลือด
    แบบนี้รักษายังไงค่ะ เป็นริดสีดวงรึป่าวค่ะ

    1. อาการตามที่คุณบอกน่าจะเป็นริดสีดวงทวาร แต่จะเป็นมากน้อยแค่ไหนยังไม่อาจบอกได้เพราะริดสีดวงมีทั้งที่เป็นภายนอกและที่เป็นภายใน(เกิดบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย) ถ้าคุณยังสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติสุข(ไม่เดือดร้อนหรือทรมานจากอาการของโรค) ก็แนะนำว่าให้ดูแลตัวเองตามคำแนะนำในการป้องกันโรคริดสีดวงทวารตามข้อ 1 – 6 อาการก็น่าจะดีขึ้นหรืออาจหายได้เองครับ.

  4. ถ้ามีเนื้อนิ่มๆนูนๆขึ้นมาตรงหูรูด เจ็บเวลาถ่ายนิดหน่อยนี่คือเป็นริดสีดวงใช่มั้ยคะ
    ถ้าปรับวิธีการใช้ชีวิตเลี่ยงปัจจัยที่บอกมาด้านบน มันจะหายเองได้มั่ยคะ
    หรือว่าต้องทายาคู่ด้วยถึงจะหายคะ?

    1. อาการของคุณลูกท้อน่าจะเพิ่งเริ่มเป็น ให้สังเกตุว่าคุณมีพฤติกรรมดังกล่าวหรือไม่เช่น ชอบนั่งส้วมนาน(อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ โทรศัพท์ ขณะเข้าห้องน้ำ) ท้องอืดต้องเบ่งเวลาถ่ายเป็นประจำ ดืมน้ำน้อย เวลาล้างก้นชอบถูแรงๆรอบทวารหนัก ฯลฯ ให้ลองปรับพฤติกรรมดังกล่าวอาการก็จะดีขึ้นและหายเป็นปรกติได้โดยไม่ต้องใช้ยา.

  5. พอดีตอนนี้ตรงขอบทวารหนักของผมมีก้อนเนื้อขึ้นอยู่ก้อนนึงครับมันจะเจ็บมากเวลาไปโดน แต่ผมไม่มีอาการถ่ายเป็นเลือด ไม่ท้องล่วง ท้องผูก มันพึ่งจะเป็นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเองครับ คืออยู่ๆมันก็เจ็บที่ทวารครับแต่ไม่ได้อยู่ข้างในนะครับ ตรงขอบทวารแล้วลองคลำๆดูมันเป็นก้อนเนื้อขึ้นมาครับ ผมไม่แน่ใจว่าริดสีดวงหรือฝีอ่ะครับช่วยหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

    1. จากข้อมูลที่คุณให้มาไม่น่าจะใช่ริดสีดวงทวารเพราะไม่มีอาการท้องผูกและเพิ่งเป็นเมื่อวันจันทร์ ถ้าเป็นริดสีดวงทวารจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกับพฤติกรรมต่างๆที่ทำให้เกิดโรคนี้เช่น ท้องผูกเป็นระยะเวลานานๆ เวลาถ่ายอุจจาระต้องเบ่งแรงๆหรือพฤติกรรมชอบนั่งส้วมนานๆ ฯลฯ

      อาจเป็นฝีตามที่คุณคิดก็ได้ ถ้าเป็นฝีจริงอีกไม่นานฝีก็จะสุกเมื่อฝีแห้งแล้วก็จะหายเป็นปกติเอง ยังไงก็ให้ระวังเรื่องความสะอาดไว้ก่อน อย่าให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้นก็แล้วกัน.

  6. แต่ตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วล่ะครับเพราะ เมื่อเช้านี้ตรงทวารของผมมีเลือดออกด้วยครับ แต่อาการเจ็บมันก็ไม่ค่อยเจ็บแล้วอ่ะครับ ก้อนเนื้อก็เล็กลงด้วย เป็นเพราะอะไรช่วยทีนะครับ

    1. คำถามของคุณ Exceed ค่อนข้างจะตอบยากครับเพราะไม่ทราบว่าข้อมูลที่คุณให้มาจะถูกต้องมากน้อยแค่ไหน
      1. ตอนแรกคุณบอกว่า “พึ่งจะเป็นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเองครับ” ซึ่งความจริงแล้วคุณอาจจะเป็นมานานแล้วแต่เพิ่งจะรู้ตัวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาก็ได้
      2. “ไม่มีอาการท้องร่วง ท้องผูก” อันนี้ต้องหมายถึงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาย้อนหลังไปหลายๆปีนะครับ เพราะริดสีดวงทวารมักเกิดกับคนที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง(เป็นมานานหลายปี)
      3. เลือดที่ออก ไม่ทราบว่าออกมาจากระบบขับถ่ายภายในร่างกายหรือออกมาจากก้อนเนื้อที่อยู่ขอบทวารหนัก ต้องลองใช้ส่องกระจกดูว่าหลังจากเลือดออกแล้วก้อนเนื้อมีรอยแตกเป็นแผลหรือไม่และเลือดที่ออกมามีหนองผสมออกมาหรือไม่ เป็นเลือดสดๆ หรือว่าเป็นเลือดสีแดงเข้ม

      ถ้าข้อมูลไม่ชัดเจนจะตอบได้ยากครับ กรณีของคุณอาจจะเป็นได้ทั้งริดสีดวงทวารหรืออาจเป็นฝีก็ได้ ผมว่าทางที่ดีควรไปรับการตรวจอย่างละเอียดจากแพทย์จะดีกว่านะครับ ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตามเพื่อจะได้รับการวินิจฉัยและคำแนะนำในการรักษาที่ถูกต้อง.

  7. มีก้อนเนื้อนิ่มๆตรงหูรูด ค่ะ ตอนไม่ถ่ายก็จะคันบ้างค่ะตอนถ่ายจะเจ็บนิดๆช่วงก่อนเป็นมีปัญหาเรื่องคับถ่ายค่ะพอเป็นก็ถ่ายปกติ เป็น ระยะเริ่มรึป่าวค้ะ แล้วควรทำยังไงค้ะ

    1. อาการของคุณพรน่าจะยังเป็นไม่มาก หากปรับพฤติกรรมต่างๆตามคำแนะนำในบทความจะทำให้อาการดีขึ้นได้ ให้สังเกตุว่าตัวเองมีพฤติกรรมอะไรที่เป็นสาเหตุของริดสีดวงทวารเช่น นั่งส้วมนาน(ชอบอ่านหนังสือ เล่นเกมส์ แชท ฯลฯ ขณะเข้าห้องน้ำ) ปล่อยให้ท้องผูกบ่อยๆ เวลาถ่ายต้องเบ่งแรงๆ ไม่ค่อยกินผัก ดื่มน้ำน้อยกว่าปกติ ฯลฯ สาเหตุเหล่านี้ทำให้เป็นริดสีดวงทวารได้และหากคุณมีพฤติกรรมแบบนี้แล้วยังปล่อยให้เป็นไปเรื่อยๆไม่หาทางแก้ไขโดยปรับพฤติกรรมเหล่านี้ก็จะทำให้อาการของโรคลุกลามต่อไปเป็นระยะที่ 2 , 3, 4 ทำให้ยากต่อการรักษา ตอนนี้ยังทันครับถ้าคุณหาสาเหตุให้เจอแล้วแก้ไขรับรองว่าอาการของโรคจะดีขึ้นและหายเป็นปกติได้ เอาใจช่วยครับ

  8. รบกวนสอบถามค่ะ ตอนนี้ตรงทวารหนักมีติ่งเนื้อยื่นออกมา สามารถใช้มือจับได้เลย แต่ขับถ่ายปกติ ไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออก แต่ตอนกลางคืนเวลานอน ประมาณ 6 ทุ่ม จะมีอาการคันที่ทวารหนักมาก ส่วนเวลากลางวันจะไม่มีอาการคันเลยค่ะ ทุกอย่างปกติดี อยากทราบว่าใช่อาการของโรคริดสีดวงทวารหรือเปล่าคะ และตอนนี้หนูควรจะทำอย่างไร รบกวนช่วยตอบกลับทางอีเมล์ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

  9. ผมท้องเสียประมาณ2วัน แล้วมันมีติ่งเนื้อเยื่อ
    ออกมาเป็นก้อน ที่ขอบรูทวารหนัก มันเจ็บตอนนั้ง
    ไม่ทราบว่าผมเป็นริดสีดวงรึป่าวคับ

    1. ริดสีดวงทวารเป็นโรคที่ไม่ได้เป็นแบบปุ๊ปปั๊ปทันที แต่อาการของโรคจะค่อยๆ สะสมจากพฤติกรรมที่ทำต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน เช่น ชอบนั่งส้วมนาน(อ่านหนังสือ,เล่มเกมส์,คุยโทรศัพท์ไปด้วย) เวลาล้างก้นชอบถูบริเวณรูทวารหนักแรงๆ ท้องผูกบ่อยๆ ฯลฯ จนทำให้เส้นเลือดบริเวณรอบๆทวารหนักเกิดการโป่งพองและลุกลามจนเป็นติ่งเนื้อ ทั้งนี้อาการเหล่านี้ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร(อาจจะเป็นปีๆด้วยซ้ำไป)

      คุณมีติ่งเนื้อที่ขอบรูทวารหนักและเจ็บตอนนั่งก็น่าจะเป็นอาการของริดสีดวงทวารหนักครับ ลองปรับพฤติกรรมต่างๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของโรค(อ่านได้จากบทความด้านบน) ให้ลดน้อยลงก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ครับ

  10. รบกวน ขอถามหน่อยคะ กรณีที่เจ็บหน่วงๆข้างในช่วงลำไส้ตรงบริเวณทวารหนัก เวลาขับถ่าย เหมือนมีติ่งเนื้อโผล่ออกมาด้วยค่ะ ใช่เป็นริดสีดวงไหมคะ

    1. อาการเจ็บบริเวณทวารหนักเวลาขับถ่ายและดูเหมือนจะมีติ่งเนื้อโผล่ออกมาน่าจะเป็นริดสีดวงทวารครับ ลองสังเกตุพฤติกรรมประจำวันของคุณเองว่ามีพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การเป็นโรคนี้(ตามบทความด้านบน) บ้างไหม เพราะอย่างที่ผมเคยตอบไปในหลายคำถามแล้วว่า โรคริดสีดวงทวารไม่ได้เป็นกันง่ายๆ แต่เป็นโรคที่เกิดจากการกระทำพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้เป็นประจำต่อเนื่องกันมานาน(อาจเป็นเวลาหลายๆปีก็ได้)

      หากสังเกตุพบว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านั้นก็ให้หาทางลดให้น้อยลงหรือเลิกให้ได้ก็จะเป็นผลดีกับตัวคุณเองครับ.

  11. ผมอยากทราบว่าตอนนี้ผมมีก้อนเนื้อเล็กๆอยู่ที่ใต้ขอบของรูทวารมันใช้อาการของริดสีดวงทวารหนักหรือเปล่าคับแต่ผมไม่ได้มีอาการท้องผูก หรือถ่ายเป็นเลือด เลยนะคับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายมาประมาณ4-5วันแล้ววันที่6ผมถ่าย แล้วพอล้างทวารมือไปโดนจึงรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อเล็กๆอยู่แล้วก่อนรู้สึกเจ๊บคับ มันใช้ริดสีดวง หรือเปล่าครับ

    1. คนส่วนมากจะไม่ทราบว่าตัวเองค่อยๆสะสมอาการของโรคริดสีดวงทวารอยู่เรื่อยๆ ปกติคนเราจะถ่ายวันละครั้ง ให้ลองนึกถึงหลักความจริงที่ว่า พอเรากินอาหารเข้าไปต้องมีของเสียที่ร่างกายจำเป็นต้องขับออกมา อาการของคุณเกมส์คือไม่ได้ถ่ายมาประมาณ 4-5 วันแล้วพอวันที่ 6 มาถ่ายจึงรู้ว่ามีก้อนเนื้อเล็กๆอยู่ตรงขอบทวารหนักและรู้สึกเจ็บๆคันๆ นั่นคือริดสีดวงทวารหนักครับ

      คนที่เป็นริดสีดวงทวารอาจท้องผูกนานๆครั้ง แต่พฤติกรรมอย่างอื่นที่อาจนำมาสู่โรคนี้ได้เช่น นั่งส้วมนาน บางคนแม้จะท้องไม่ผูกแต่ชอบเบ่งอุจจาระแรงๆ แบบพรวดเดียวจบ หากวันไหนกินน้ำน้อยทำให้ถ่ายยากถ้าคุณเบ่งแรงๆ ก็อาจทำให้เส้นเลือดดำรอบๆทวารหนักค่อยๆโป่งพองออกมาได้ หากมีพฤติกรรมแบบนี้บ่อยๆก็จะทำให้เส้นเลือดดำรอบทวารหนักโป่งพองออกมาจนไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมได้จนกลายเป็นริดสีดวงทวารได้ครับ.

        1. อาการของคุณเกมส์มีโอกาสหายได้แน่นอนครับ ถ้าคุณหาสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงได้ คุณต้องสังเกตุว่าพฤติกรรมอะไรที่เป็นสาเหตุและคุณมักจะทำบ่อยๆจนติดเป็นนิสัยก็ให้ค่อยๆลดหรือเลิกให้ได้เช่นชอบนั่งส้วมนาน อาจเป็นเพราะว่าคุณชอบอ่านหนังสือเวลาถ่ายหรือเล่นเกมส์หรือคุยโทรศัพท์ แชทกับเพื่อน ทำให้เพลินจนนั่งส้วมนานกว่าปกติก็ให้พยายามแก้ไขโดยเวลาเข้าส้วมให้งดทำกิจกรรมต่างๆเหล่านั้น ให้ทำธุระให้เสร็จภายใน 3-5 นาทีแล้วออกจากห้องน้ำมาจึงค่อยทำกิจกรรมต่อไป.

          1. ขอบคุณคับ ผมว่าน่าจะเป็นเพราะ ผมเป็นคนไม่ชอบถ่ายอ่าคับ เพราะเป็นคนที่ถ่ายยากมากอ่า เวลาไม่ถ่ายนานๆพอถ่ายออกทีบ้างครั้งก็เลือดออกด้วยคับ เป็นเพราะสาเหตุนี้แน่เลยครับ

  12. ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะคะ แต่คือเดินอยู่ดีๆ มันมีอาการแสบๆบริเวณรอบๆรูทวาร พอกลับมาบ้านก็เอามือลูบๆดู ก็เป็นก้อนเนื้อโผล่ออกมา แต่ไม่ใหญ่มาก ถ้าเป็นแบบนี้รักษายังไงคะ

    1. คนที่เป็นริดสีดวงทวารส่วนมากจะไม่ค่อยรู้ตัว ถ้าอาการที่เป็นอยู่ไม่ได้สร้างอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมากก็ค่อยๆหาทางรักษา(อ่านคำแนะนำจากบทความด้านบน) พยายามหาสาเหตุให้พบแล้วค่อยๆปรับปรุงพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของโรคครับ เช่นคนส่วนมากมักจะท้องผูก(สาเหตุหลักของริดสีดวงทวาร) ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุเช่น เครียดงาน เครียดเรื่องส่วนตัว ดื่มน้ำน้อย กินอาหารที่มีกากใยน้อย ฯลฯ แล้วย้อนกลับมาดูที่ตัวคุณมลิสาเองว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคก็แก้ที่ตรงนั้นครับ
      ***ที่สำคัญคืออย่าประมาทคิดว่าอาการยังไม่หนักค่อยรักษาก็ได้ อย่าชะล่าใจนะครับ รีบรักษาแต่เนิ่นๆจะได้หายไวๆ.

  13. วันนี้ฉานถ่าย แต่ถ่ายไม่ออก และพยายามเบ่งอุจจาระแรงๆเนื่อจากไม่ถ่ายมาประมาณ2วัน แต่วันนี้ฉันกลับถ่ายเป็นเลือดแต่ไม่มีอาการปวดใดๆ และไม่มีติ่งยื่นออกมา อยากทราบว่าฉันเป็นในระยะไหนแล้วคะ

    1. อาการของคุณ lm ยังไม่มีติ่งเนื้อยื่นออกมาแม้จะเบ่งอุจจาระอย่างแรง อาการนี้น่าจะอยู่ในระยะแรกครับ

      การดูแลตัวเองให้อ่านคำแนะนำจากบทความด้านบนครับ (อย่าปล่อยให้ท้องผูกบ่อยๆ ดื่มน้ำให้มากหน่อย กินอาหารที่มีกากใยสูงเช่น ผัก ผลไม้ ธัญญพืช ฯลฯ )

  14. คือมีตุ่มใสๆนิ่มๆพอจับจะรุ้สึกเจ็บๆปวดๆไม่มากเท่าไหร่อ่ะค่ะขึ้นข้างๆรูทวารค่ะเพิ่งจะหายท้องเสียเมื่อไม่กี่วันด้วยอ่ะค่ะจะใช่ริดสีดวงหรือป่าวค่ะ

  15. มีติ่งเนื้อยื่นออกมาบริเวณทวารมานานแล้วค่ะ เพราะเคยท้องผูกมาก่อนค่ะ แต่เมื่อสองวันก่อนถ่ายแล้วมีเลือดออกค่ะ สังเกตดูแล้วว่ามีรอยฉีกตรงติ่งเนื้อที่ยื่นออกมาค่ะ แล้วมีเลือดไหลมาประมาณ 2 วันแล้วและรู้สึกแสบ คันด้วยค่ะ แต่ขับถ่ายเป็นปกติ อยากทราบเป็นริดสีดวงหรือเปล่าค่ะ แล้วต้องรักษาอย่างไร ช่วยตอบหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ

    1. ใช่ครับ อาการของคุณ Lynnzeii เป็นอาการของโรคริดสีดวงทวารหนักครับ

      ให้ถามตัวเองก่อนว่าอาการที่เป็นอยู่มันทำให้ทรมานและเป็นอุปสรรคกับการดำเนินชีวิตประจำวันหรือไม่ ถ้ายังพอทนได้ก็ให้รักษาที่อาการท้องผูกเป็นอันดับแรกเลย ให้หาให้พบว่าอาการท้องผูกของคุณเกิดจากอะไรเช่น เครียด ดื่มน้ำน้อย กินอาหารที่มีกากใยน้อย ฯลฯ แล้วแก้ไขพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุเหล่านั้นจะทำให้อาการของคุณค่อยๆดีขึ้นครับ.

  16. คือ มันมี เนื้อไม่ใหญ่มากประมาณ 3 จุด เวลาถ่าย มันจะออกมา แล้วรู้สึกเจ็บแต่ไม่มากครับ ถ่ายเสร็จก็จะหด เข้าไปเองครับ แต่จะมีบางจุด หดช้าหน่อยครับ เวลาเดินบางครั้ง ก้อเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่บ่อยครับ ควรจะรักษาอย่างไรครับ

    1. เสริมนิดนึงครับ ผมเป็นคนถ่ายนาน แล้วไม่ชอบกินผัก แล้วก็เครียดบ่อยๆ ครับ ช่วยตอบด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

      1. อาการริดสีดวงทวารของคุณ buble อยู่ในระยะที่ 2 ควรรักษาด้วยการปฏิบัติตัวเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นสาหตุของโรค(อ่านบทความด้านบน) และควรใช้ยาควบคู่ไปด้วยครับ
        ยารักษาริดสีดวงจะมียาเหน็บทวารหนักซึ่งเป็นยาใช้ภายนอก ยาชาบรรเทาอาการปวด ยาทำให้หลอดเลือดหดตัว ยาลดการอักเสบและยาปฏิชีวนะ ฯลฯ คุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการให้ละเอียด ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำและจ่ายยาที่เหมาะสมกับอาการของคุณ.

        คุณ bubble บอกว่า “ผมเป็นคนถ่ายนาน แล้วไม่ชอบกินผัก แล้วก็เครียดบ่อยๆ ครับ”

        นั่นไงครับ. สาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคริดสีดวงทวาร
        คุณ bubble ต้องแก้ที่ต้นเหตุครับ
        1. พฤติกรรมการนั่งส้วมนานเกิดจากอะไรครับ ชอบทำกิจกรรมขณะนั่งส้วมหรือไม่(อ่านหนังสือ,คุยโทรศัพท์,เล่นเกมส์,แชท ฯลฯ) ให้พยายามลด ละ จนเลิกให้ได้จะเป็นผลดีกับอาการริดสีดวงที่คุณเป็นอยู่ครับ
        2. ไม่ชอบกินผัก ลองหาอาหารอื่นๆที่กินแล้วให้กากใย(Fiber)ในระบบทางเดินอาหารสูง เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด(หรือป๊อปคอนก็ได้แต่ระวังอย่าใส่เนย น้ำตาลเกลือมากเกินไป) อาหารเสริมที่ให้กากใยสูงก็สะดวกดีแต่ต้องลงทุนหน่อย(ราคาแพง)
        3. ความเครียด ไม่ทราบว่าเครียดจากอะไรครับ งานประจำวัน คนรอบข้าง เพื่อนร่วมงาน เพื่่อนยืมตัง์ค์แล้วไม่คืน แฟนทิ้ง ภาวะข้าวยากมากแพง ฯลฯ (โอ๊ย…พูดแล้วผมก็เริ่มเครียดเหมือนกันน่ะ) ค่อยๆแก้ไปทีละปัญหาครับ

        ถ้าไม่มีตังค์แต่สุขภาพดีก็ยังโอเค
        ถ้าไม่มีตังค์แถมยังเป็นริดสีดวงอีก(สุขภาพไม่ดี) ก็แย่หน่อย
        แต่ยังไง The Show must go on ชีวิตต้องดำเนินต่อไปครับ…..สู้ ๆ.

  17. คือมีช่วงหนึ่งหนูท้องผูกประมาณ 3-5 วัน หลังจากนั้นก็ขับถ่ายตามปกติไม่ได้เบ่งนะคะแต่เจ็บขณะถ่ายและถ่ายยาก หลังจากนั้นหนูมีอาการเจ็บที่ทวารหนักตลอดเวลา1วัน หลังจากนั้นก็ไม่เจ็บเวลาปกติแต่เจ็บเวลาขับถ่าย เลยลองคลำดูรู้สึกว่ามันมีติ่งแหลมๆเล็กๆที่ขอบรูทวารอ่ะค่ะไม่ได้ยื่นออกมา คืออยากทราบว่าหนูเป็นริดสีดวงรึป่าวคะ แล้วถ้าเป็นมีวิธีที่รักษาอย่างไรคะ รักษาเองได้มั้ยคะ

    1. อาการของคุณ tt คือ เจ็บขณะถ่ายและถ่ายยาก อีกทั้งมีติ่งเล็กๆที่ขอบรูทวาร นั่นคือคุณเป็นโรคริดสีดวงทวารครับ ริดสีดวงทวารมีทั้งชนิดที่เกิดภายในทวารหนักและเกิดอยู่รอบๆทวารหนัก(ติ่งยื่นออกมา) หากอาการของโรคไม่เป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิตประจำวันก็ให้ดูแลตัวเองโดยการป้องกันไม่ให้ท้องผูกเช่น ดื่มน้ำมากๆ กินอาหารที่มีกากใยมากหน่อย(ผักและธัญญพืช) และสังเกตุว่าตัวเองมีพฤติกรรมอะไรที่ทำให้เกิดโรคเช่น ใช้เวลาถ่ายนานกว่าปกติ เบ่งแรงๆเวลาขับถ่าย ฯลฯ ก็ให้แก้ไขพฤติกรรมเหล่านั้นเสีย ถ้าคุณทำตามที่แนะนำสักระยะหนึ่งอาการก็น่าจะดีขึ้น(อย่างน้อยที่สุดอาการก็ไม่น่าจะลุกลามไปมากกว่าที่เป็นอยู่) ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ควรปรึกษาแพทย์ครับ.

  18. ไม่แน่ใจ เหมือนกันว่าตัวเองเป็นริดสีดวงป่าว ช่วยตอบทีค่ะ
    เวลาขับถ่ายจะถ่ายเป็นเลือดแล้วรุ้สึกเจ็บ แล้วบริเวณรอบๆถวารนัก เหมือนรู้สึกจะบวมขึ้นแล้วพอจับดูก้อรู้สึกเจ็บๆอ่ะค่ะ ไม่ทราบว้าเป็นอาการของริดสีดวงอ่ะป่าวค่ะ ช่วยตอบไห้น่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ

    1. อาการของคุณ Pim เป็นอาการของโรคริดสีดวงทวารหนักครับ ขอแนะนำว่าอย่าปล่อยให้อาการลุกลามไปกว่านี้นะครับ ให้ปรึกษาแพทย์หรือไม่ก็อ่านคำแนะนำจากบทความด้านบนได้ครับ.

  19. ถ้าอุจระแล้วรู้สึกแสบทวารหนัก พอเอากระดาษเช็ดก็มีเลือดเล็กน้อย (ก่อนหน้านี้อุจระไม่ค่อยออก อุจระก็แข็งด้วย) แบบนี้หมายความว่าไงคะ?

    1. ท้องผูกและมีเลือดออกขณะถ่าย คุณ Nuntar เป็นริดสีดวงทวารครับ อ่านคำแนะนำจากบทความและพยายามปฏิบัติตามจะช่วยให้อาการดีขึ้นครับ.

  20. รบกวนถามค่ะดิฉันรู้สึกแสบบริเวณขอบๆทวารหนัก จับดูมันมีเนื้อนูนๆ นิ่มๆ แต่ไม่ใหญ่มาก บริเวณขอบทวาร นี่ใช่เป็นริดสีดวงไหมค่ะ ขับถ่ายทุกวัน ไม่มีเลือดออก แต่วันละครั้งนี่น้อยไปไหมค่ะ แล้วรักษาหายไหม ค่ะ

    1. คุณ nisa เป็นริดสีดวงทวารครับ ถ่ายวันละครั้งถือว่าปกติ
      การรักษาริดสีดวงต้องหาสาเหตุก่อนครับว่าเกิดจากพฤติกรรมอะไร ลองอ่านบทความด้านบนแล้วหาคำตอบว่าคุณมีพฤติกรรมแบบไหน ถึงแม้คุณจะถ่ายทุกวันแต่ถ้าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้ก็ทำให้เป็นริดสีดวงได้ครับเช่น ชอบนั่งส้วมนานๆ ท้องผูก ถ่ายยาก เบ่งแรงๆขณะถ่าย เครียด ดื่มน้ำน้อย ไม่ชอบกินผักและผลไม้ ฯลฯ เมื่อหาสาเหตุพบก็พยายามปรับปรุงตัวเองแก้ไขพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของโรคก็จะช่วยให้อาการของโรคดีขึ้นครับ.

  21. เมื่อ 2-3 วันที่แล้วหนูถ่ายไม่ออก เลยพยายามเบ่ง แล้วถ่ายแข็งอ่ะค่ะ พอหลังจากนั้นก็ถ่ายเหลวแล้วมีเลือดออกมาด้วย จนมาวันนี้ถ่ายเป็นปกติก็ยังมีเลือดออกมาอยู่ พอเอามือไปสัมผัสตรงรูทวารก็พบติ่งเนื้อนิ่มๆอยู่อ่ะค่ะเล็กๆ อยากทราบว่าเป็นริดสีดวงป่าวค่ะ ถ้าเป็นๆระยะไหนมีวิธีรักษายังไงคะ ขอบคุณค่ะ รบกวนตอบในอีเมลล์นะคะ

        1. อาการของคุณ Nit เป็นอาการของโรคริดสีดวงทวารระยะที่ 2 ครับ อย่าเพิ่งตกใจหรือกลัวจนเกินเหตุนะครับ คนส่วนมากมักจะไม่ค่อยรู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ต้องรอจนมีอาการที่สังเกตุได้อย่างชัดเจนคือมีเลือดปนออกมาขณะขับถ่ายและมีติ่งเนื้อเกิดขึ้นรอบรูทวารหนัก

          สาเหตุของโรคส่วนมากจะเกิดจากพฤติกรรมเหล่านี้เช่น ท้องผูกเป็นประจำ นั่งส้วมนาน เวลาถ่ายต้องเบ่ง(อุจจาระแข็ง-ท้องผูก) ฯลฯ ทำให้เส้นเลือดดำที่อยู่รอบทวารหนักเกิดการโป่งพองจนกลายเป็นติ่งเนื้อ
          หากยังมีพฤิตกรรมเหล่านี้ต่อไปอาการจะเป็นมากขึ้นคือเมื่อต้องเบ่งอุจจาระแรงๆ(อุจจาระแข็ง)ก็จะทำให้เส้นเลือดดำที่อยู่รอบทวารหนักถูกครูดจนเป็นรอยสุดท้ายก็แตกทำให้เวลาถ่ายมีเลือดปนออกมากับอุจจาระ

          วิธีรักษาป้องกันทำได้โดยหาสาเหตุให้พบว่าคุณมีพฤติกรรมอะไรที่เสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงทวาร จากนั้นให้พยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านั้นเช่น คุณ Nit มักจะท้องผูก(ถ่ายแข็ง) เป็นประจำ ซึ่งอาจเกิดจากการดื่มน้ำน้อยกว่าปกติ ไม่ค่อยกินผักและผลไม้ก็ให้พยายามดื่มน้ำให้มากขึ้นและพยายามกินผักผลไม้ให้มากกว่าเดิม.
          เมื่อรักษาอาการท้องผูกได้แล้วจะทำให้อาการของโรคดีขึ้นแน่นอนครับ

          ผมหวังว่าคำแนะนำของผมคงเป็นประโยชน์กับคุณ Nit บ้างนะครับ…ยังไงก็เอาใจช่วยให้หายเร็วๆนะครับ.

  22. รบกวนถามหน่อยค่ะ คือเมื่อ2วันที่แล้ว ตอนเช้าหนูท้องผูก(ถ่ายแข็ง) แล้วมีเลือดออกมาด้วย แต่ช่วงบ่ายหนูอุจจาระอีกครั้งก็ไม่มีเลือดแล้ว แต่ว่ามีอาการแสบๆนิดๆ และตรงรูทวานยังไม่มีเม็ดผดผื่นอะไร หนูอยากทราบนี่มันคือ อาการของริดสีดวงระยะเริ่มไหมค่ะ ถ้าหนูเป็นแล้วหนูจะต้องรักษายังไงค่ะ ต้องพบแพทย์ หรือว่าใช้ยารักษาค่ะ

    1. การที่คุณถ่ายแล้วมีเลือดออกเกิดจากอุจจาระที่แข็งครูดรอบๆปากทวารหนักทำให้เส้นเลือดดำที่อยู่รอบๆทวารหนักเกิดการฉีกขาดซึ่งอาการที่ว่านี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นโรคริดสีดวงทวาร แม้ว่าจะยังไม่มีติ่งเนื้อเกิดขึ้นรอบทวารหนักแต่เราไม่อาจทราบได้ว่ารอบๆรูทวารหนัก(ภายใน)จะมีติ่งเนื้ออยู่หรือไม่(ริดสีดวงทวารแบบภายใน) ดังนั้นเพื่อความแน่ใจคุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดและขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัวและรับการรักษาอย่างถูกวิธีครับ.

        1. ผู้ป่วยริดสีดวงทวารหนักส่วนมากจะเป็นริดสีดวงทวารผสมกันทั้งแบบภายนอกและแบบภายใน ถ้าคุณเป็นริดสีดวงทวารแบบภายในอย่างเดียวจะสังเกตุได้ยากกว่าการเป็นริดสีดวงทวารแบบภายนอก แต่เมื่อมีอาการมากขึ้นเข้าสู่ระยะที่ 2 เป็นต้นไปหัวริดสีดวงจะค่อยๆโผล่ออกมาให้เห็น แรกๆก็จะหดกลับเข้าไปเองได้ แต่ต่อไปอาจต้องใช้มือช่วยดันกลับเข้าไปจนสุดท้ายไม่สามารถดันหัวริดสีดวงให้กลับเข้าที่ได้

          ขอเตือนคุณว่ายังมีโรคอื่นๆอีกหลายโรคที่แสดงอาการขั้นต้นคล้ายๆกับโรคริดสีดวงทวารจนทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นริดสีดวงทวาร ดังนั้นคุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดจะดีกว่าครับ.

  23. พอดีเคยเป็นริดสีดวงมาก่อนค่ะ ถ่ายไม่เป็นเลือดแต่ตรงรูทวารจะเป็นก้อนเนื้อนิ่มเวลาเบ่งบ้างบางครั้ง
    ส่วนอาการเจ็บ ปวดตรงรูทวารนี้หายไปเดือนกว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้ว่าเป็นแล้วค่ะ และเมื่อสองวันที่แล้วดิฉันเดินๆอยู่ก็รู้สึกเจ็บที่รูทวาร
    พอเอามือคลำก็พบว่ามีก้อนเนื้อซึ่งใหญ่กว่าครั้งที่แล้วมาก และเจ็บเวลาสัมผัสนิดหน่อย ดันกลับเข้าไปเวลาเดินก็ย้อยอีก
    แต่เวลาเดินเวลานั่งจะรู้สึกเจ็บมากแต่ยังทนได้อยู่ อยากทราบว่าทำไมริดสีดวงกลับมาอีกค่ะ
    เพราะอาการเจ็บได้หายไปสักพักแล้วหลังจากที่รู้ว่าเป็นริดสีดวง และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ท้องผูกอีกเลย
    มีสองสามวันที่ผ่านมาถ่ายเหลวนิดหน่อย แต่ก็ไม่เกินวันละหนึ่งครั้งค่ะ
    วันนี้เข้าวันที่สามแล้วของอาการเจ็บ ยังไม่มีท่าทีว่าอาการปวดจะลดเลยค่ะ ขนาดก้อนเนื้อก็เท่าเดิม ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ

    1. ริดสีดวงเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดได้ยาก ส่วนมากจะประคับประคองอาการไปไม่ให้เป็นมากขึ้น ยกเว้นคุณจะรักษาด้วยการผ่าตัด(ตัดติ่งเนื้อออกไปเลย) ซึ่งฟังดูน่ากลัวแต่ความจริงแล้วไม่ได้น่ากลัวหรืออันตรายอย่างที่คิดกัน เดี๋ยวนี้เทคนิคการผ่าตัดริดสีดวงทวารพัฒนาไปมาก ไม่น่ากลัวและโอกาสหายขาดสูง
      คำแนะนำคือ คุณ mean ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์เพื่อหาทางรักษาที่เหมาะสม(อาจไม่ต้องผ่าตัดก็ได้) เพราะอาการของคุณค่อนข้างเป็นมากแล้ว(ติ่งเนื้อโผล่ออกมาดันกลับเข้าไปแล้วก็ออกมาอีก) และมีอาการเจ็บด้วยซึ่งหากปล่อยต่อไปอาจเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวันครับ.

  24. คือหนูมีอากรเหมือนระยะแรกเลยค่ะ แต่ไม่กล้าไปหาหมออะค่ะ จ่ะดูแลด้วยตัวเองได้ใหมคะ พี่หนูบอกว่าเดี๋นวก็หายอ้ะ

    1. คุณแนนอย่าอายหมอเลยครับ คุณอาจไปหาหมอผู้หญิงก็ได้อย่างน้อยผู้หญิงเหมือนกันการซักถามอาการและการให้คำปรึกษาน่าจะสะดวกกว่าหมอผู้ชาย
      โรคริดสีดวงเป็นแล้วโอกาสหายเองคงเป็นไปไม่ได้ จะมีก็แต่คอยดูแลตัวเองอย่าให้อาการลุกลามมากไปกว่านี้ถ้าอาการที่เป็นอยู่ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดทรมานจนเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตประจำวันก็อาจใช้วิธีดูแลตัวเองได้
      ลองอ่านบทความแล้วปฏิบัติตามคำแนะนำก็น่าจะเพียงพอต่อการดูแลประคับประคองอาการของโรคริดสีดวงไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้
      อีกประการหนึ่งถ้าไม่อยากปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันลองรักษาด้วยสมุนไพรก็อาจจะช่วยให้ดีขึ้นได้ครับ.

  25. คือดิฉันไม่แน่ใจว่าเป็นริดสีดวงหรือป่าว คือดิฉันเคยทองผูกและมีเลือดหยดๆออกมาเวลาขับถ่าย เมื่อเกือบสามปีกว่า และพอดิฉันคลอดลูกอาการเหล่านั้นก็หายไป จนมาถึงวันนี้ดิฉันมีก้อนเนื้อโผล่ออกมาก็ไม่เจ็บมากแค่รู้สึกระคายเคือง อ่ะค่ะ ไท่ทราบว่าใช้หรือเปล่า ถ้าใช้อาการ และไม่เจ็บ อยากจะทราบว่ามียาตัวไหนบ้างค่ะที่ช่วย ให้หาย และหายขาดหรือป่าวค่ะ

    1. โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่ต้องประคับประคองอาการให้ทรงอยู่อย่างนั้น ถ้าคุณดูแลสุขภาพดีไม่ปล่อยให้ท้องผูกบ่อยๆ เลิกพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการทำให้โรคลุกลาม ฯลฯ ก็จะมีผลให้อาการของโรคไม่เป็นมากขึ้นแต่จะไม่หายได้เองเนื่องจากเส้นเลือดดำที่โป่งพองออกมาแล้ว(จะเป็นติ่งเนื้อซึ่งอาจจะหลบอยู่ภายในหรือโผล่ออกมารอบๆปากทวารหนัก)จะหดกลับเข้าไปเองให้เหมือนปกติไม่ได้ ถ้าจะให้หายขาดต้องรักษาโดยวิธีผ่าตัดทั้งนี้ต้องปรึกษาแพทย์ครับ.

  26. คือผมมีติ่งเล็กๆ ตรงรอบๆรูทวาร คันบ้างบางครั้งแต่ไม่เจ็บไม่มีเลือดออก เป็นริดสีดวงใช่ไหมคับ สัมผัสดูแล้วเป็นติ่งๆเยอะอยู่คับ

    1. ถูกต้องแล้วครับ. ลองอ่านคำแนะนำจากบทความด้านบนดูแล้วพยายามปฏิบัติตาม พฤติกรรมไหนที่เสี่ยงต่อการทำให้อาการของโรคริดสีดวงลุกลามก็ให้พยายามแก้ไขอาจจะค่อยๆลดจนกระทั่งสามารถเลิกพฤติกรรมเหล่านั้นได้ ก็จะสามารถควบคุมอาการของโรคไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ครับ.

  27. หนูเป็นริดสีดวงระยะที่4แล้วค่ะ เป็นมานานมากไม่เคยไปพบแพทย์เลย จนตอนนี้มี่เพิ่มขึ้นเป็น2ติ่งแล้ว แทบจะปิดรูทวารแล้วค่ะ เจ็บและทรมานมากๆ จะมีอาการอักเสบยุบ่อยๆสำหรับติ่งที่เป็นใหม่ยุ ควรทำไงดีคะ หนูทรมานมากๆค่ะ หนูชอบทานเผ็ด เปรี้ยว เวลาถ่ายจะรู้สึกแสบๆ และหลังจากนั้นอาการเจ็บแสบและปวดหน่วงๆก้อตามมาค่ะ กินยาเพชรสังฆาตตอนนี้เพิ่งเริ่มกินแต่ไม่รู้ว่าจะช่วยได้มั๊ย จะหมดกระปุกแล้วแต่ยังไม่เหนดีขึ้น ควรทำไงดีคะ

    1. ถ้าคุณเค้กได้รับความทรมานจากอาการของโรคริดสีดวงทวารและอาการของโรคทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันเป็นไปด้วยความยากลำบากคุณควรหาทางรักษาโดยเร็ว แต่เนื่องจากอาการของคุณเป็นระยะที่ 4 แล้ว การรักษาจึงต้องใช้เวลามากกว่าปกติ

      ถ้าคุณรักษาด้วยการกินสมุนไพรเพชรสังฆาตอาจต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อยจึงจะเห็นผล ทั้งนี้คุณต้องแน่ใจว่าคุณใช้ยาตามเอกสารกำกับยาอย่างถูกต้องและยาต้องไม่หมดอายุนะครับ คุณอาจใช้ยาเหน็บทวารควบคู่ไปด้วยเพื่อลดอาการทรมานของโรค
      เพชรสังฆาตเป็นสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับและมีผลการทดลองยืนยันว่าช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวารได้ แต่สมุนไพรที่ใช้รักษาริดสีดวงทวารมีหลายชนิดถ้าคุณกินเพชรสังฆาตแล้วอาการไม่ดีขึ้นก็อาจเปลี่ยนเป็นสมุนไพรตัวอื่นซึ่งอาจจะให้ผลดีกว่า แต่ถ้าลองสมุนไพรหลายๆชนิดแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นก็ต้องปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันแล้วละครับ.

  28. สวัสดีครับ
    ผมไปผ่าริดสีดวง ภายในมา 2 หัว ที่ 12 นาฬิกา และ 9 นาฬิกา ส่วน 6 นาฬิกา ยังเล็กอยู่ หมอบอกว่าถ้าผ่าออกหมดรูทวารจะตีบได้ ตอนนี้ ผ่านไปแล้ว 14 วัน เวลาหลังถ่ายออกจะแสบเล็กน้อย และทานยา Daflon 500Mg อยู่

    ที่อยากถาม กี่วันจะหายแสบครับ

    1. ปกติหลังผ่าตัดริดสีดวงทวารแล้ว ถ้าปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ อาการจะค่อยๆดีขึ้น ส่วนเรื่องระยะเวลานั้นโดยทั่วไปประมาณ 1-2 อาทิตย์ครับ(บางคนเป็นเดือนก็มี) ถ้าการดูแลตัวเองของคุณหลังผ่าตัดโดยเฉพาะเรื่องการขับถ่าย(ไม่เบ่งแรงเกินไป) ไม่มีอาการท้องผูก(สาเหตุทำให้เบ่งแรง) ไม่นั่งส้วมนาน ฯลฯ แผลที่ผ่าตัดจะค่อยๆดีขึ้นจนหายเป็นปกติครับ.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *