โรคมะเร็งสามารถบอกลักษณะอาการความรุนแรงและระดับการลุกลามของโรคได้จาก “ระยะของมะเร็ง” โดยอาศัยผลจากการตรวจร่างกายและชิ้นเนื้อหรือลักษณะก้อนที่ได้จากการผ่าตัด การเอ็กซ์เรย์ ตรวจผลเลือดมาเป็นองค์ประกอบในการกำหนดระยะของมะเร็ง ทั้งนี้เพื่อให้แพทย์สามารถพยากรณ์และวางแผนการรักษาโรคได้อย่างเหมาะสม
สิ่งที่เป็นตัวกำหนด “ระยะของมะเร็ง” จะพิจารณาการจากขนาดของก้อนมะเร็งและการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งว่าได้ลุกลามหรือแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ ได้มากน้อยแค่ไหนแล้ว ทั้งนี้การประเมินระยะของมะเร็งยังสามารถนำผลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่อยู่ในระยะเดียวกันเพื่อทำให้รู้เกี่ยวกับการดำเนินไปของโรคและสามารถรักษาได้ดียิ่งขึ้น
การกำหนดระยะของมะเร็ง จะพิจารณาจาก ตำแหน่งที่เกิดเซลล์มะเร็ง จำนวนก้อน ขนาดของก้อนและการลุกลามไปยังกระแสเลือดหรือต่อมน้ำเหลืองมากน้อยเพียงใด อีกทั้งพิจารณาจากชนิดของเซลล์และลักษณะการแทรกเข้าไปในเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตัวอย่างของระยะมะเร็งเช่น ผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมก้อนใหญ่และได้ลุกลามเข้าไปสู่ต่อมน้ำเหลืองแล้วแต่ยังไม่แพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ
ในด้านการรักษาโรคมะเร็งจะมีการแบ่งระดับความรุนแรงของโรคตามระยะของโรคและระดับการแพร่กระจาย ลุกลามของโรคออกเป็น 4 ระยะคือ
มะเร็งระยะที่ 1 คือมะเร็งที่ยังอยู่ในเฉพาะจุดที่เริ่มเป็นในวงจำกัด
มะเร็งระยะที่ 2 คือมะเร็งที่เริ่มลุกลามผ่านไปยังอวัยวะและเนื้อเยื่อข้างเคียง
มะเร็งระยะที่ 3 คือมะเร็งที่เริ่มลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งระยะที่ 4 คือมะเร็งที่ได้แพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ แล้ว
โดยปกติแล้วช่วงเวลาระยะต่างๆ ของโรคมะเร็งจะไม่สามารถกำหนดได้แน่นอนว่า มะเร็งแต่ละระยะนั้นจะกินเวลานานเท่าใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วยและธรรมชาติของโรค