คำแนะนำเรื่องการกินอาหารสำหรับคนท้องส่วนมากมักเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติเพราะคำแนะนำเหล่านั้นค่อนข้างเป็นวิชาการมากจนเกินไปจนไม่สามารถนำไปใช้พิจารณาสำหรับเลือกกินอาหารที่เหมาะสมแก่คนท้องได้จริง การกำหนดอย่างตายตัวว่า
แต่ละมื้อไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า เที่ยงและมื้อเย็นที่คนท้องจะต้องกินอาหารตามนี้ 1…2…3… ทำให้รู้สึกเหมือนถูกบังคับจนไม่อยากปฏิบัติตาม ตัวอย่างเช่น ในตารางอาหารสำหรับคนท้องจะมีสิ่งที่เป็นประโยชน์อยู่ 108 ชนิด รายการผักต่างๆมีเป็นสิบแต่หากคุณเป็นคนที่เกลียดการกินผักรายการอาหารที่ว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตของคุณแย่ลงทันที ดังนั้นคำแนะนำอาหารคนท้องน่าจะเป็นการบอกหลักและแนวทางกว้างๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ให้เข้ากับการดำเนินชีวิตจริงจะเป็นการดีกว่าการระบุที่เฉพาะเจาะจงว่าต้องกินอะไรแค่ไหน
คนท้องเป็นคนที่ไม่ใช่ตัวเปล่าเล่าเปลือยแล้วเพราะคุณกำลังจะให้กำเนิดอีกหนึ่งชีวิตเพิ่มเข้ามาในครอบครัว ดังนั้นหลักการเลือกอาหารสำหรับคนท้องก็คือการเลือกกินอาหารที่คุณต้องทานได้(อาจจะชอบมากชอบน้อยก็แล้วแต่) และมีสารอาหารที่เพียงพอสำหรับตัวคนท้องและลูกน้อยในท้อง อาหารจะแบ่งเป็น 5 หมู่ ในแต่ละหมู่ควรเลือกกินเป็นสัดส่วนเท่าใด
อาหารที่ให้โปรตีน ความสำคัญของสารอาหารชนิดนี้จำเป็นต้องใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ๆ ดังนั้นปริมาณโปรตีนที่คนท้องได้รับต้องมากเป็นสองเท่าของคนปกติ ทุกอย่างที่ให้โปรตีนสามารถกินได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์ หมู เป็ด ไก่ ปลา ไข่ รวมทั้งโปรตีนที่ได้จากพืชตระกูลถั่ว ฯลฯ
อาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต อาหารในกลุ่มนี้จะเป็นประเภทแป้งและน้ำตาล อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่มีประโยชน์เช่นน้ำอัดลมกับขนมหวาน ให้เลือกกินคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากพืชจะดีที่สุดคือ ข้าวที่เมล็ดยังไม่ผ่านการขัดสี(ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ) เป็นต้น
อาหารกลุ่มที่ให้ไขมัน ไม่ควรแตะต้องเลยเพราะถ้าคุณกินอาหารประเภทโปรตีนแล้วก็น่าจะได้ไขมันติดมาอยู่แล้วซึ่งน่าจะเพียงพอจนไม่จำเป็นต้องหาไขมันเพิ่มจากแหล่งอื่นแล้ว อย่าลืมว่าอาหารประเภทไขมันจะให้แคลอรีเป็นสองเท่าถ้ากินในปริมาณที่เท่ากับการกินโปรตีนหรือคาร์โบไฮเดรต คนท้องต้องการปริมาณแคลอรีเพิ่มจากปกติ 15 เปอร์เซ็นต์ ถ้าปกติร่างกายคุณต้องการไขมัน 2,100 แคลอรี่/วัน ในช่วงที่คุณท้องร่างกายต้องการไขมันเพิ่มขึ้นเป็น 2,400 แคลอรี/วัน(เพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์)
อาหารที่ให้แร่ธาตุแก่คนท้อง ในช่วงที่ร่างกายอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ร่างกายต้องการธาตุเหล็กอย่างมากเพื่อนำไปลำเลียงออกซิเจนและสร้างเม็ดเลือดให้แก่เด็กในครรภ์ซึ่งระบบจะไหลเวียนจากแม่ไปสู่ลูก นอกจากนี้ “แคลเซียม” ก็เป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างยิ่งอีกตัวหนึ่งในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายต้องการแคลเซียมที่มากกว่าภาวะปกติเพื่อนำไปสร้างกระดูกและฟันของลูกน้อย อาหารที่มีสารอาหารแคลเซียมอยู่มากที่คนท้องควรเลือกกินได้แก่ผักใบเขียว ปลาตัวเล็กที่กินทั้งตัวได้ ถั่วแดง งาดำ เป็นต้น ส่วนอาหารที่ให้ธาตุเหล็กมากได้แก่ ผักโขม ไข่แดง ตับ และผักตำลึง เป็นต้น
อาหารประเภทเกลือแร่และวิตามิน เป็นกลุ่มที่จำเป็นน้อยที่สุดสำหรับคนท้อง ยังไงเสียคนท้องก็ไม่ควรกินอาหารที่มีรสเค็มมากเกินไป หากในภาวะปกติคุณเป็นคนชอบกินอาหารรสเค็มขณะตั้งท้องควรลดการใช้เกลือ กะปิและน้ำปลาประกอบอาหารสำหรับคุณเพราะว่าเกลือแร่และวิตามินจะได้รับอยู่แล้วจากอาหารที่คุณกินตามปกติถ้าคุณกินอาหารในกลุ่มอื่นๆอย่างถูกสัดส่วนแล้ว
ประการสุดท้ายคือวิธีการปรุงอาหารสำหรับคนท้อง อาหารที่มีคุณค่าถ้าได้รับการปรุงอย่างไม่ถูกต้อง(ผิดวิธี)ก็ทำให้คุณค่าทางโภชนาการลดลงไปมาก กระบวนการประกอบอาหารที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะมีการ ผัด ทอด ปิ้ง ย่าง ตุ๋น ต้ม นึ่ง ซึ่งแต่ละวิธีการปรุงอาหารคุณสามารถเลือกได้ สำหรับคนท้องถ้าเป็นไปได้ควรเลือกการทำอาหารด้วยวิธีต้ม นึ่งหรือตุ๋นจะดีกว่าการใช้วิธีทอด ย่าง ปิ้ง เพราะการทอดจะทำให้คุณได้ไขมันส่วนเกินมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนการประกอบอาหารประเภทที่มีผักและผลไม้เป็นส่วนประกอบก็ไม่ควรใช้ความร้อนสูงและนานเพราะความร้อนจะเป็นตัวการทำลายคุณค่าทางโภชนาการของอาหารให้ลดน้อยลง สำหรับคนท้องการกินผักและผลไม้สดจะดีที่สุด