อาการก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual Syndrome หรือ PMS) ถือเป็นการป่วยอย่างหนึ่ง จะทำให้ร่างกายปั่นป่วนรู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจทำให้เกิดความวิตกกังวลสำหรับสตรี ผลกระทบที่เกิดจากอาการก่อนมีประจำเดือนอาจเล็กน้อยในบางคนแต่ในอีกหลายคนที่อาการหนักถึงขั้นต้องล้มหมอนนอนเสื่อซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและการเนินชีวิตประจำวัน อาการ PMS สามารถหลีกเลี่ยงหรือบรรเทาลงได้หากรู้จักดูแลรักษาสุขภาพอย่างถูกวิธี
ลักษณะการป่วยจากอาการก่อนมีประจำเดือน สามารถแบ่งออกได้เป็นกลุ่มอาการได้ 3 กลุ่มใหญ่ๆคือ อาการป่วยทางร่างกาย การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและอาการป่วยทางอารมณ์ การป่วยทางร่างกายอาจมีอาการดังนี้คือ ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามร่างกาย เป็นสิว รู้สึกอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ท้องอืด เจ็บบริเวณทรวงอก เป็นต้น ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่เห็นได้ชัดคือ น้ำหนักเพิ่มขึ้น หน้าท้องมีการขยายตัว สตรีบางคนน้ำหนักอาจเพิ่มได้ 1-2 กิโลกรัมในช่วงที่มีอาการก่อนมีประจำเดือน แต่เมื่อพ้นช่วงนี้ไปแล้วน้ำหนักก็จะกลับสู่ภาวะปกติได้เอง อาการป่วยทางอารมณ์ผู้ป่วยจะเกิดความวิตกกังวล หงุดหงิด เครียด โมโหง่าย ฯลฯ
สาเหตุของอาการก่อนมีประจำเดือน ในทางวิชาการยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเกิดจากอะไร แต่มีแนวคิดที่พอสรุปได้ว่าเป็นสาเหตุของอาการก่อนมีประจำเดือนได้ 2 สาเหตุคือ เกิดจากความผิดปกติของระดับฮอร์โมนในร่างกายและเกิดจากความวิตกกังวล ในช่วงก่อนมีประจำเดือนของคุณผู้หญิงนั้นระดับฮอร์โมนเพศหญิงทั้ง 2 ชนิด(Progesterone และ Prolactin) จะมีระดับฮอร์โมนทั้ง 2 ตัวที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เกิดผลกระทบกับตัวผู้ป่วยคือหงุดหงิดง่ายและขี้โมโห ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งคือความวิตกกังวลที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือนว่ารอบเดือนนี้จะมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นหรือไม่เลยทำให้เกิดเป็นอาการก่อนมีประจำเดือนนั่นเอง
วิธีรักษาอาการก่อนมีประจำเดือน วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการดูแลเรื่องอาหารการกินและปรับตัวในการใช้ชีวิตประจำวันให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ อาหารที่เหมาะกับสตรีช่วงก่อนมีประจำเดือนคืออาหารที่มีเส้นใยสูงและปริมาณแคลอรีต่ำ ได้แก่ พวกธัญพืช ผัก-ผลไม้ ฯลฯ อาหารเหล่านี้จะช่วยลดปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ทำให้มดลูกบีบรัดตัว ส่วนสารอาหารอื่นๆที่เหมาะกับช่วงก่อนมีประจำเดือนคือ แมกนีเซียม กรดโฟลิค แคลเซียม วิตามินอี วิตามินบี6 และน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่มีกรดไขมันที่ชื่อ แกมมา-ไลโนลินิค (GLA) ที่ร่างกายใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยลดการอักเสบและช่วยขยายหลอดเลือดทำให้การอักเสบลดลงได้ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจึงมักถูกนำไปใช้กับผู้ป่วยหรือคนที่มีอาการก่อนมีประจำเดือนและคนที่อยู่ในระหว่างช่วงมีประจำเดือนเพื่อรักษาอาการปวดที่เกิดจากการมีประจำเดือนและการปวดหน้าอกอีกด้วย
การปรับตัวและการดำเนินชีวิตประจำวันให้เหมาะสม การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนที่มีอาการก่อนมีประจำเดือน ประโยชน์ของการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายหลั่งสารแหล่งความสุขออกมา(เอนโดฟิน) ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวลและไม่เครียด แต่การออกกำลังกายนั้นให้ทำแต่พอดีคือทำแค่รู้สึกสบายตัวอย่าหักโหมและที่สำคัญต้องทำอย่างสม่ำเสมอด้วย นอกจากนี้การรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอจะช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือนได้โดยการอาบน้ำอุ่น ถ้าปวดบริเวณท้องน้อยก็ให้ใช้กระเป๋าน้ำร้อนวางประคบ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือต้องพักผ่อนให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย วิธีบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือนที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นและทรมานกับอาการก่อนมีประจำเดือนน้อยลง