โรคหวัดที่มักมาพร้อมกับอากาศเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อของฤดูเช่น จากหน้าร้อนเข้าหน้าฝน จากหน้าฝนเข้าหน้าหนาว จากหน้าหนาวกลับไปหน้าร้อนอีก ไม่ว่าใครๆหากดูแลสุขภาพไม่ดีต้องพบกับปัญหาปรับตัวไม่ทันและเป็นหวัดแน่นอน โรคหวัด
แม้จะไม่อันตรายมากแต่ก็ทำให้เกิดความรำคาญและส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย น่าแปลกที่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีป้องกันโรคหวัดที่ได้ผลแน่นอน สิ่งที่จะเป็นภูมิคุ้มกันให้กับตัวเราจากโรคหวัดนั่นคือการดูแลเอาใจใส่เรื่องอาหารการกิน การพักผ่อน การออกกำลังกาย ถ้าใส่ใจเรื่องดังกล่าวแล้วร่างกายจะแข็งแรงอยู่เสมอทำให้โอกาสที่เจออากาศเปลี่ยนแปลงแล้วเป็นหวัดก็จะน้อย หรือหากเป็นหวัดก็จะสามารถฟื้นตัวหายได้เร็วกว่าคนทั่วไปที่ไม่สนใจดูแลรักษาสุขภาพ การป้องกันตัวเองให้พ้นจากโรคหวัดเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงโดยดูแลเรื่องอาหารการกินจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาที่ต้องระมัดระวังคือ ก่อนเป็นหวัด ขณะเป็นหวัดและหลังจากเป็นหวัด
ช่วงเวลาก่อนเป็นหวัด ถ้าทำได้ควรเลือกกินอาหารที่เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายโดยเฉพาะผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวที่มีวิตามินซีอยู่ วิตามินซีจะเป็นตัวป้องกันไม่ให้เป็นหวัดได้ง่ายซึ่งจะพบได้ใน มะม่วง ส้ม มะนาว มะละกอ และฝรั่ง เป็นต้น
ช่วงระยะเวลาที่กำลังเป็นหวัด สิ่งที่คุณต้องเลือกกินคืออาหารที่เสริมภูมิต้านทานและพืชสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการหวัด ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำให้กินในช่วงที่กำลังเป็นหวัดคือ 3,000 มิลลิกรัม/วัน ให้กินติดต่อกันเป็นเวลา 5 วันเพื่อประโยชน์ในการกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ ส่วนสมุนไพรที่เหมาะกับการบรรเทาโรคหวัดได้แก่ ใบกะเพราซึ่งมีสรรพคุณช่วยขับเหงื่อ ลดไข้และแก้อาการไอได้ด้วย ขิงเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะกับการบรรเทาอาการหวัด สรรพคุณของขิงจะช่วยขับเสมหะ แก้ไอ เมื่อเป็นหวัดให้กินน้ำขิงอุ่นๆ วันละ 3 ครั้ง เช้า เที่ยง เย็น สมุนไพรฟ้าทะลายโจรก็เป็นสมุนไพรอีกตัวที่ช่วยบรรเทาหวัด แก้เจ็บคอ แก้ไข้และต้านการอักเสบ
ช่วงระยะเวลาที่หายจากหวัดแล้ว เมื่อเพิ่งหายจากหวัดใหม่ๆ แต่ภูมิต้านทานยังไม่ปกติจึงควรดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ อย่าสัมผัสอาการร้อนจัดหรือเย็นจัดเพราะเดี๋ยวอาการหวัดจะกลับมาอีกและให้ปฏิบัติตัวดูแลสุขภาพตามหลักพื้นฐานคือกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และกินผัก-ผลไม้ที่มีวิตามินซีให้มากหน่อย คำแนะนำที่กล่าวมาก็น่าจะเพียงพอต่อการป้องกันโรคหวัดแล้ว