ผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด(Asthma) เกิดจากการอักเสบของหลอดลมแบบเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุผนังหลอดลมมีความไวต่อสารภูมิแพ้อย่างมากและหลอดลมก็จะตีบลงประกอบกับการอักเสบของกล้ามเนื้อหลอดลมทำให้เกิดเสมหะที่เหนียวและข้นจนเป็นสาเหตุให้อากาศที่ผ่านเข้าออกทางหลอดลมไปสู่ปอดได้น้อยกว่าปกติจึงทำให้หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ช่วงจังหวะการหายใจจะถี่(สั้น) ไอ และมีเสียงหวีดที่เกิดจากการหายใจ
ความรุนแรงของโรคหอบหืดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค ผู้ป่วยบางรายก็เป็นมากส่วนบางรายก็เป็นน้อยขึ้นกับปัจจัยหลายตัวประกอบกัน แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอาการหอบหืดคือสารภูมิแพ้ที่ร่างกายผู้ป่วยได้รับสิ่งกระตุ้นเข้าไปและการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ สองสาเหตุสำคัญนี้จะทำให้อาการกำเริบขึ้นมาได้
การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหอบหืด ทำได้โดยการให้ความรู้แก่คนที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยตลอดจนคนที่อยู่รอบข้างต้องคอยสังเกตว่า อะไรที่เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ป่วยเกิดอาการหอบหืดขึ้นมาก็ให้ผู้ป่วยพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยนั้นๆ ผู้ป่วยควรไปตรวจสมรรถภาพของปอดเพื่อนำผลไปเปรียบเทียบในการวัดผลการรักษา ถ้าอาการหอบหืดกำเริบขึ้นมาตัวผู้ป่วยเองและคนที่อยู่รอบข้างควรรู้จักการใช้ยาบรรเทาหอบหืดอย่างถูกต้องและทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นยาลดการอักเสบของหลอดลม ยาคลายกล้ามเนื้อหลอดลมรวมทั้งยาที่ฉีดพ่นเข้าหลอดลมเพื่อบรรเทาอาการหอบหืดซึ่งเป็นยาตัวหลักที่ใช้ในผู้ป่วยหอบหืดโดยทั่วไป
ข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้ป่วยหอบหืดเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุและปัจจัยต่างๆที่มีผลต่ออาการของโรค การรักษาหอบหืดให้ได้ผลนั้นแพทย์ต้องทราบรายละเอียดของข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวผู้ป่วยและต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาการของโรคจะทุเลาแล้วแต่ต้องไม่ลืมว่าอาการอักเสบยังมีอยู่และต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง การรู้จักเอาตนเองให้อยู่ห่างจากสารภูมิแพ้ทั้งหลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแต่บางครั้งหากเกิดอาการหอบหืดขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้จึงควรเตรียมพร้อมเสมอสำหรับยาบรรเทาหอบหืดซึ่งต้องมีไว้เป็นยาประจำตัวไว้ใช้ยามเกิดอาการหอบหืด หากผู้ป่วยรู้จักเตรียมพร้อมก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีใกล้เคียงกับคนปกติอย่างแน่นอน